วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เอสซีจี ลงนามพันธมิตร สโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด วางเป้าหมายพัฒนาสู่สโมสรฟุตบอลชั้นนำของเอเชีย




เอสซีจี ผนึกกำลังสโมสรเมืองทองฯยูไนเต็ด ร่วมถือหุ้น 30% พร้อมเป็น Title Sponsor 5 ปี ด้วยงบ 600 ล้านบาท มุ่งพัฒนาวงการฟุตบอลไทยสู่ภูมิภาคเอเชียและระดับโลก ตามวิสัยทัศน์การก้าวสู่องค์กรธุรกิจชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในอาเซียนพร้อมตั้งเป้าทวงบัลลังก์แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก และผงาดสู่สโมสรฟุตบอลชั้นนำของเอเชีย
นายปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล  กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ซิเมนต์ เปิดเผยว่า เอสซีจีbมีวิสัยทัศน์ว่า ในปี พ.ศ.2558 เอสซีจีจะเป็นองค์กรธุรกิจชั้นนำในอาเซียนที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เอสซีจี ได้เริ่มสร้างแบรนด์ในประเทศต่างๆ แถบอาเซียน ทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา และพม่า การสนับสนุนสโมสรฟุตบอลของเอสซีจี เป็นการนำแบรนด์เอสซีจีให้ได้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น ตามแนวทางการทำ Sport Marketing โดยเอสซีจีมีเป้าหมายที่จะสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งในอาเซียนตามวิสัยทัศน์ขององค์กร

เอสซีจี เล็งเห็นว่า เมืองทองฯยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีศักยภาพสูง ทั้งผู้เล่น ผู้ฝึกสอน และการบริหารจัดการ มีสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานสากล และกลุ่มกองเชียร์ขนาดใหญ่ เป็นสโมสรฟุตบอลชั้นนำอันดับต้นๆ ของประเทศ มีโอกาสเข้าแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชียอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมี Football Academy ที่แข็งแกร่ง มีความสัมพันธ์ที่ดีกับโรงเรียนกีฬาเยาวชน และสโมสรฟุตบอลชั้นนำทั้งในแถบเอเชียและยุโรป ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของเอสซีจีที่ต้องการพัฒนาศักยภาพเยาวชนและนักกีฬาไทยตลอดจนเผยแพร่ชื่อเสียงของทีมฟุตบอลไทยและประเทศไทยสู่ภูมิภาคเอเชียและระดับโลก

“ที่สำคัญ คือ ทีมเมืองทองฯยูไนเต็ด มีเป้าหมายที่จะเป็นสโมสรฟุตบอลชั้นนำในระดับภูมิภาคเอเชีย 
ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ผู้นำธุรกิจอย่างยั่งยืนในอาเซียน เอสซีจี จึงตัดสินใจเข้าร่วมทุนกับสโมสรฟุตบอลเมืองทองฯยูไนเต็ด ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 30 พร้อมเป็น Title Sponsor เป็นระยะเวลา  5 ปี ด้วยงบประมาณ 600 ล้านบาท โดยมุ่งหวังว่าการสนับสนุนทีมเมืองทอง ยูไนเต็ดครั้งนี้ จะช่วยยกระดับมาตรฐานวงการฟุตบอลของประเทศไทยให้ทัดเทียมสู่ระดับสากล รวมทั้งช่วยเผยแพร่แบรนด์เอสซีจีให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น” นายปราโมทย์ กล่าว



 

ทางด้านนายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์  ประธานสโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า การเข้ามาร่วมทุนของเอสซีจีในครั้งนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางด้านการบริหารสโมสรฟุตบอลอาชีพ ที่โมเดลนี้จะช่วยให้ทีมเข้าแข่งขันในรายการต่างๆและศักยภาพที่สูงสุด นับเป็นการลงทุนที่เกิดจากความเชื่อมั่นต่อสโมสรอย่างแท้จริง การลงนามพันธมิตรครั้งประวัติศาสตร์ของสโมสรฯ ที่มีผู้เข้ามาสนับสนุน และถือหุ้นมากกว่าครั้งที่ผ่านๆมา ก็ต้องขอขอบคุณ เอสซีจี ที่ให้ความไว้วางใจ และเห็นคุณค่าของสโมสรเมืองทองฯ จึงได้ตัดสินใจมาร่วมทุนในครั้งนี้ ซึ่งในฤดูกาล 2012 ที่จะถึงนี้ สโมสรเมืองทองฯ มีเป้าหมายลุ้นทุกแชมป์ สร้างความสำเร็จให้กับทีมในการลงแข่งขันรายการต่างๆ เพื่อความยิ่งใหญ่ของสโมสร และความสมหวังของผู้สนับสนุน ซึ่งเรามั่นใจว่าจะทำผลงานได้ตามเป้าหมายแน่นอน

"นอกจากประสบความสำเร็จในการแข่งขันลีกภายในประเทศแล้ว สโมสรเมืองทองฯ ก็ยังมีเป้าหมายใหญ่ที่จะขึ้นไปเป็นสโมสรชั้นนำของทวีปเอเชียให้ได้ภายในเวลา 3-5 ปี เห็นได้จากการเสริมทัพนักเตะจากยุโรป และ เอเชีย  รวมทั้งนักเตะผิวสี ฝีเท้าดีของสโมสรฯที่เรามีอยู่ มารวมกับนักเตะไทยดีกรีทีมชาติหลายคน และดาวรุ่งที่ได้เวลาขึ้นมาทดแทนทีมชุดใหญ่หลายคนเช่นกัน ซึ่งความพร้อมของสโมสรฯ ทำให้เรามั่นใจว่าจะยืนหยัดเป็นทีมระดับชั้นนำของเอเชีย อย่างแน่นอน " นายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์กล่าว

โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ ยังมีการเปลี่ยนชื่อทีมเป็น เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทั้งยังเป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกเสื้อแข่ง และเปลี่ยนชื่อเป็นสนามเหย้าเป็น เอสซีจี สเตเดี้ยม โดยมีเป้าหมายพัฒนาวงการฟุตบอลไทยไปสู่ภูมิภาคเอเชียและระดับโลก พร้อมไล่ล่าความสำเร็จมาสู่ทีม และในระยะยาวคือการเป็นสโมสรชั้นนำของเอเชีย 






ที่มาของข่าวและภาพ http://www.mtutd.tv

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น